สื่อเขมรเคยกล่าวอ้างทหารไทยเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารไปแล้ว 88 นาย พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2552 มีทหารบาดเจ็บประมาณ 9 คน เสียชีวิต 2 คน ยืนยันว่าไม่มีการสูญเสียมากมายอย่างที่เป็นข่าว.
เหตุเกิด 15.15น วันศุกร์ ระหัสทหาร 666 เลยสร้างเรื่องโกหก ยิงถล่มกัน รมต.กษิต สีหน้าเรียบเฉย ทั้งประชุมอยู่ในเขมร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 6 โมงเช้า ยิงกันซ้ำอีก สายๆ บอกทหารเขมร ตายไป 64 นาย ปิดชายแดนเข้าไปเจรจา 2-3 ชม. เปิดใหม่ ชาวบ้านค้าขายกันต่อไม่มีความโกรธแค้นชิงชัง
ความมั่นคง
ข่าวโดยNation Channel วันที่5 กุมภาพันธ์ 2554
จำนวนผู้ชม 7589
ปะทะรอบ 2 ทหารเขมรตาย 64
โฆษกกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ระบุเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาอีกระลอกเช้านี้ บริเวณชายแดนจ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 4 ขณะที่ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 64 นาย และรถยานเกราะเสียหาย 12 คัน
ต้องไล่เขมรลงเขาพระวิหารไป เสร็จแล้วล้อมรั้ว ถ้าจะมาอยู่ให้อยู่ในคอกที่กำหนดให้ ... ทำแบบนี้ให้เสร็จก่อน ทหารไม่ต้องส่งไปตาย ประกาศออกทีวี ทิ้งระเบิดปูพรม ... แล้วค่อยขึ้นไปเคลียร์พื้นที่
(ภาพด้านบนเป็นภาพร่องรอยความเสียหายของตัวปราสาทพระวิหาร)
(ภาพด้านล่าง เป็นภาพจากสำนักข่าวต่างประเทศ และภาพวิดิโอบันทึกจากสนามรบ บันทึกจากฝั่งทหารกัมพูชา)
| |
นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ เผยข้อเท็จจริง ระบุไทยเป็นฝ่ายรุกล้ำดินแดนกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2011 ระหว่างเวลา 15.00 น. ถึง 17.00 น. โดยทหารไทยกว่า 300 นายได้เข้ามายังดินแดนกัมพูชาและโจมตีกัมพูชาจาก 3 จุด และเช้าวันที่ 5 ก.พ. 2011 เวลา 06.30 น. โดยไทยยิงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 105 ม.ม. ที่ภูมะเขือ เป็นเวลา 20 นาที
“การโจมตีเป็นผลให้เกิดความเสียหายรุนแรงอย่างมากต่อปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับการเสียชีวิตและบาดเจ็บของทหารกัมพูชาและประชาชนกว่าสิบราย”
ไทยได้ละเมิดศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ สนธิสัญญาทางไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกัมพูชาและประเทศไทยเป็นภาคี และละเมิดข้อตกลงสันติภาพปารีสปี 1991 ในเรื่องความเป็นเอกราช บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่อาจล่วงล้ำ ความเป็นกลาง ความเป็นเอกภาพของชาติของกัมพูชา
ขอบคุณเนื้อหาจาก ประชาไท และสำนักข่าว DAP
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น