วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แม่ ... หมอเหวง รักษาการประธาน นปช. - ปล่อยให้สังคมไทยและสังคมโลกพิจารณาเอง กรณี คดียุบ ปชป. หมดอายุความ


นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบ เพราะศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องคดีการใช้เงินทุน 29 ล้านบาทนั้น เป็นผลดีต่อการเติบโตของคนเสื้อแดงเพราะทำให้คนเสื้อแดงที่รู้สึกท้อแท้กลับมาฮึดสู้ขึ้นมาโดยที่เสื้อแดงไม่ต้องทำอะไรมาก เนื่องจากคำตัดสินชี้ว่า มีสองมาตรฐานเกิดขึ้นชัดเจน "เราจะไม่ทำอะไรจะไม่เคลื่อนไหวกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ปล่อยให้สังคมไทยและสังคมโลกพิจารณาเอง เพราะเราไม่ต้องการสร้างเงื่อนไขหรือทำให้เกิดตัวละครใหม่เพื่อให้เกิดความสับสนและเกิดปัญหาขึ้น"

นางธิดา กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้นัดแถลงข่าวเวลา 13.00 น. ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งทิศทางของนปช.จากนี้จะเน้นสันติวิธีและใช้เหตุผลต่อสู้ โดยแกนนำต้องการส่งสัญญาณถึงเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ ทั่วประเทศว่า หากจะเคลื่อนไหวอะไรต้องยึดหลักการสันติ และมีสติในการทำงานเพราะเราไม่ต้องการให้เกิดอนาธิปไตย หรือความรุนแรงเพราะหากมีความรุนแรงเกิดขึ้นจะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้น

"เราต้องการให้สังคมเข้าใจว่า เสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่มีการใช้ความรุนแรงเหมือนที่รัฐบาลพยายามกล่าวหา"

...... ประวัติ หมอเหวง


7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ฮือฮากันไปแล้ว แต่ทราบไหมคะ เราน่าจะจัดอันดับเรื่องจริงประเภท 'How Come? เป็นไปได้ไง (ฟระ)' บ้างก็จะดีนะคะ เรื่องประเภทไม่น่าเป็นไปได้ ยกตัวอย่าง คนที่เป็นคอมมิวนิสต์หัวรุนแรง จะมาตั้งตัวเป็นแกนนำเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ...เป็นไปได้ไง(ฟระ)
เช่น คนคนนี้ หมอเหวง

ประวัติ

ชื่อตามบัตรประชาชน: นายแพทย์เหวง โตจิราการ

ชื่อจัดตั้งในพรรคคอมมิวนิสต์: สหายเข้ม
ประวัติการศึกษา:
คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สถานะการสมรส: สมรสแล้ว
ชื่อภริยาตามบัตรประชาชน:
ธิดา ถาวรเศรษฐ
ชื่อจัดตั้งของภริยาในพรรคคอมมิวนิสต์: สหายปูน
ประวัติการทำงาน
: มีคลีนิครักษาโรค 2
แห่ง
รัชดาคลีนิก ที่อยู่ เลขที่ 2003/3 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 02 5612051

กิจกรรมทางการเมือง:
- เป็นแกนนำนักศึกษามหิดล ตำแหน่งประธานพรรคแนวร่วมมหิดลและนายกสหพันธ์นักศึกษามหิดล
- มีความสนิทชิดเชื้อกับสหายเก่า "หมอมิ้ง" น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และ "หมอเลี้ยบ" น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี คนใกล้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างยิ่ง
- หมอเหวงเดินทางไปต่างประเทศก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลา หลายเดือน ระหว่างทางก็มีการขัดแย้งรุนแรงระหว่างกันเอง เมื่อต้องหลบเข้าป่าไป จึงทิ้งภารกิจการนำนักศึกษามหิดลให้ หมอมิ๊ง

มีบทบาททางการเมืองช่วงเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 โดยก่อตั้งสมาพันธ์ประชาธิปไตยขึ้นมาสนับสนุนการต่อสู้ของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ร่วมกับศ.นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ และครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ
มามีบทบาทอีกครั้งในช่วงนี้เมื่อร่วมกับหลากหลายกลุ่มทวงสัญญาให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมาย 11 ฉบับ เข้าใจว่าคงได้พูดคุยกับคนของรัฐบาลระดับหนึ่งแล้ว และเข้าร่วมคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีจัดตั้งขึ้น ที่มีคุณพันศักดิ์ วิญญรัตน์เป็นประธาน

เคยลงสมัครส.ว. แต่แพ้หวุดหวิด ลงสมัครครั้งที่ 2 เพราะคนอื่นได้ใบเหลือง ก็ยังแพ้หวุดหวิดอีก

- ต้นปี 2525 มีการประชุมสมัชชาพรรคฯครั้งที่ 4 (หน่วยอีสาน) ณ ภูผาแดง ฐานที่มั่นภูพาน ส.เข้ม ได้รับความไว้วางใจให้เป็น "เลขานุการ" การประชุมฯ ซึ่งครั้งนั้นเขาหวังลึกๆว่า พรรคจะทำการผ่าตัดใหญ่ ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ และเลือกคนรุ่นใหม่เข้าไปเป็นกรรมการบริหารพรรค

เดือนสิงหาคม 2525 เมื่อการประชุมใหญ่เสร็จสิ้น และมีการประกาศคำแถลงของคณะกรรมการบริหารกลางชุดที่ 4 ครั้งที่ 1 ซึ่งมีคณะกรรมการพรรคฯที่เป็นปัญญาชนรุ่น 14 ตุลาฯ ได้รับเลือกแค่ 3 คนคือ สหายขวาน (พิรุณ ฉัตรวนิชกุล) , สหายกาวน (ชลธิรา สัตยาวัฒนา) และ สหายปูน (ธิดา ถาวรเศรษฐ์)

"สหายเข้ม"ผู้ที่ฝากความหวังไว้สูงยิ่ง รู้สึกผิดหวังอย่างแรง โดยเฉพาะประเด็นวิเคราะห์สังคมไทย ที่ตัวแทนสมัชชาพรรคฯส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมติของภาคอีสาน แต่กรมการเมือง พคท.บางคนคัดค้านและดั้นเมฆวิเคราะห์สังคมไทย จึงเขียนบทความขนาดยาวเรื่อง "ลัทธิเลนินกับคณะกรรมการบริหารกลางของพรรคเรา" วิพากษ์วิจารณ์องค์การนำชุดใหม่ เป้าแห่งการโจมตีครั้งนั้นคือ สหายธาร หรือ จางหย่วน หรือ "วิรัช อังคถาวร" ผู้ที่ถูกมองว่ามีอิทธพลครอบงำพรรค

ซึ่งก็มีเสียงนินทาลับหลังว่า หมอเหวงไม่ได้เป็นกรรมกลางกลางจึงเคลื่อนไหวโจมตีพรรค

- ปี 2526 สหายเข้มหรือ หมอเหวงประกาศแตกหักกับพรรค ด้วยการเขียนหนังสือ "ป่าแตก" ร่วมกับ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ จากหนังสือเล่มดังกล่าว จึงนำมาซึ่งวิวาทะผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ระหว่าง "สหายเข้ม" กับ "สหายขวาน" อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะเลิกรากันไป หลังจากผู้นำสูงสุด(กลุ่มใหญ่)ของ พคท.ถูกจับกุมตัว

- หมอเหวง มีบทบาทในฐานะนักเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อประชาธิปไตย จวบจนถึงวันที่มีการลุกฮือขับไล่ทักษิณ หมอเหวงยังสงวนท่าที เพราะไม่เห็นด้วยกับคำขวัญ "คืนพระราชอำนาจ" ของ สนธิ ลิ้มทองกุล ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หมอเหวงก็ขึ้นเวทีปราศรัยในประเด็นคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

แต่เมื่อถึงจุดเปลี่ยนของสถานการณ์ เมื่อพันธมิตรฯชูประเด็น "นายกฯมาตรา 7" นั่นคือเป็นจุดเริ่มของความขัดแย้งอย่างรุนแรงในกลุ่มซ้ายเก่า รวมถึงอดีตสมาชิก พคท. ที่แตกขั้วความคิดออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรกหนุนให้ล้างระบอบทักษิณ เพราะเชื่อว่า"ศักดินาที่ล้าหลัง ดีกว่าทุนใหม่ที่สามานย์"

เรื่องที่น่าผิดหวังของหมอเหวง

1. ช่วงที่เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์นั้น หมอเหวงได้เป็นคนใกล้ชิดของลุงธง แจ่มศรี ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของพรรค แม้ว่าจะถูกหมอเหวงนำชื่อไปอ้างก็ตาม แต่ลุงธงก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยแล้ว

2. เมื่อปี 2525 ที่มีการประชุมสมัชชาครั้งที่ 4 หมอเหวงที่หวังว่าจะเข้าเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็ไม่ได้รับเลือกแต่อย่างใด

3. เมื่อวันที่ 5 - 6 พ.ค. 2550ที่ผ่านมา พคท.ได้จัดงาน เรียกว่า รวมรุ่นนายร้อยเวียดนาม 08 – 09 ที่อนุสรณ์สถานภูพาน อ.เขาวงศ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรวมกลุ่มสหายนักรบดาวแดงที่ผ่านการฝึกอบรมจากโรงเรียนนายร้อยของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และแจกแถลงการณ์ของพรรคในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ปรากฎว่าเขาพูดถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในแง่บวกมากและเขาไม่ได้เอาด้วยกับกลุ่มคุณทักษิณ ชินวัตร

ความเป็นไปของพคท. (โดยสังเขป)
ปัจจุบันมีสามกลุ่มเป็นอย่างน้อย
กลุ่มแรก คือสายจีนเก่า ของคุณวิรัช อังคถาวร หรือจางหย่วน ที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งป้าผึ้งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง

กลุ่มที่สอง คือสายอีสาณ นำโดยลุงปรีดา หรือวินัย เพิ่มพูนทรัพย์ กับลุงขจัด สมลีพรหมพินิจ

กลุ่มที่สามเป็นกลุ่มเล็กๆนำโดย สหายเข้ม กับสหายปูน (หมอเหวง กับ ภริยา) รวมทั้งหมอพรหมมินทร์ เลิศสุริยเดชและพวก ซึ่งต้องการจะฟื้นฟูพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นมาใหม่ตามแนวที่ตนต้องการ โดยเห็นว่าทุนนิยมสามานย์ดีกว่าศักดินาล้าหลัง แต่ทั้งสองสายแรกไม่เอาด้วยกับกลุ่มเล็กๆของหมอเหวง คงเพราะเห็นว่า "ศักดินาที่ล้าหลัง ยังดีกว่าทุนใหม่ที่สามานต์"

ในอดีต เคยมีการเถียงกันตั้งแต่วันก่อนเสียงปืนแตก ปี 2508 ว่าสังคมไทยเหมาะหรือไม่ที่จะเปิดการต่อสู้ด้วยอาวุธขึ้นมา ธงของพรรคคอมมิวนิสต์ควรจะเป็นธงแดงมีตราฆ้อนเขียวหรือควรจะเป็นธงชาติไทยและมีตราฆ้อนเขียวประกอบ และจะติดเหรียญประธานเหมาเจ๋อตุงหรือถือหนังสือคติพจน์ประธานเหมาหรือเปล่า ปรากฎว่าแนวทางปฏิวัติวัฒนธรรมของจีนซึ่งทำให้คนตายไปจำนวนมหาศาล ประสบชัยชนะ พรรคคอมมิวนิสต์ไทยเลยถูกครอบงำแนวทางซ้ายจัดแนวทางนี้ก็สะท้อนมายังขบวนการนักศึกษาในขณะนั้น

(ประวัตินี้อาจไม่ครบถ้วน หรือ ไม่ละเอียดเท่าใดนัก
เข้าใจว่าไม่มีใครรวบรวมจัดทำไว้มาก่อนละมัง
หรือว่าเป็นบุคคลที่ไม่มีใครให้ความสนใจแล้วจริงๆ ?)

มุมสะกิดสะเก็ด(แผล)

(1) ที่มา: ความคิดเห็นคุณพรรณชมพูแห่งเสรีไทยดอทคอม http://forum.serithai.net/index.php?topic=14565.msg191274
ณ.แขวงหลวงน้ำทา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
นักศึกษาแพทย์จากประเทศไทยที่เข้าร่วมขบวนการปฎิวัติ ผู้รักและเชิดชูแนวทางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เชิดชูประธานเหมา เจ๋อ ตง ประพฤติตนเป็นนักปฎิวัติที่เข้มแข็ง จนได้รับคำยกย่องชมเชยว่า ลูกที่ดีของพรรค และได้รับฉายาเสียดสีจากกลุ่มเพื่อนนักศึกษาและผู้นำแรงงานที่เดินทางเข้าป่าไปด้วยกันว่า ลูกที่รักของจัดตั้ง นักศึกษาแพทย์ผู้นี้ ได้เลือกชื่อจัดตั้งของตนเอง ด้วยคำที่ฟังดูแล้วแข็งขึงขัง สหายเข้ม ลูกไทย

นักศึกษาแพทย์ผูนั้นคือ นพ.เหวง ในวันนี้นั่นเอง และในเวลไล่เรี่ยกันนั้น เสกสรร (ดร.เสกสรร ในวันนี้) ก็ขอเปลี่ยนชื่อจัดั้งของตนเองในทันที โดยเลือกใช้ชื่อว่า สหายไท

สหายเข้ม ลูกไทย

แล้วสหายไท พ่อใคร????

ผู้ที่เข้าป่าไปพร้อมกับสหายเข้ม และผู้ที่เคยได้ร่วมงานปฎิวัติกับสหายเข้ม ปัจจุบันยังเหลือคบกับสหายเข้มอยู่อีกกี่คน ????

พฤติกรรม และ นิสัย อันแท้จริงของสหายเข้ม มีผู้นำมาเล่าไว้ให้หนังสือหลายเล่มแล้ว

สหายเข้ม หาจุดยืนและหลักการมาต้งแต่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์ จนจวนจะเป็นอาจารย์ใหญ่อยู่แล้ว ยังหาไม่ใคร่จะพบเร้ยยยยย

อ้างถีง:

1) http://www2.manager.co.th/Politics/PoliticsQAQuestion.asp?QAID=746
2) http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=69890
3) http://www.thaioctober.com/forum/index.php?topic=4.msg11573
4) http://www.innnews.co.th/innexct/mar50_v34/p8.php
5) http://forum.serithai.net/index.php?topic=12876.msg173337
6) http://www.spiceday.com/index.php?name=Forums&file=viewtopic&t=8123
7) http://www.thaioctober.com/forum/index.php?topic=4.msg15946
8) http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/03/WW65_WW65_news.php?newsid=62522
9)
http://www.prd.go.th/prdboard/view.php?qID=214
10) เสียงหมอเหวงดีเจมะลิ http://www.thaksinfc.org/index.php?showfile=1&fid=3&p=downloads&area=1&categ=6 ไม่ได้เอามาลงให้ฟังกัน แต่สามารถคลิกลิงค์ไปฟังได้เองค่ะ ดีเจมะลินี่ เป็นพิธีกรหลักคนหนึ่งของค่าย นปก เชียวนะคะ
11) http://forum.serithai.net/index.php?topic=14565.msg191274

โห มีคนพูดถึงหมอเหวงเยอะเหมือนกันนะนี่

โดย ปิรันญ่า

ภารกิจอันตรายของ “ธิดาแดง” สิ่งที่ “ฝ่ายมั่นคง”ประมาทไม่ได้
การปรับโครงสร้างเปลี่ยนหัวของคนเสื้อแดงจาก วีระ มุกสิกพงษ์ มาเป็น ธิดา ถาวรเศรษฐ ภรรยาแบบเหวง เหวง เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดจะประมาทมิได้ เพราะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงสัญลักษณ์ และหมายรวมถึงแนวทางการต่อสู้อีกด้วย

ว่า กันว่า วันที่มีการแถลงข่าวปรับโครงสร้าง นปช.ให้ ธิดา รักษาการประธาน นปช. เป็นวันเดียวกับในอดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

“สหายปูน” ที่เคยระหกระเหินไปใช้ชีวิตในป่านานกว่า 8 ปี กลับมามีบทบาทชักธงรบอีกครั้งในฐานะหัวหน้ากลุ่ม นปช.

ในวันเดียวกันแม้แตกต่างในห้วงเวลา แต่วิธีคิดยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง

อดีต กรรมการสำรองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอย่าง “สหายปูน” ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงอดีตอาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงไม่ใช่คนสมองกลวงที่ใคร ๆ จะดูถูกได้

ที่สำคัญคือ เธอมิใช่สายพิราบ แต่เธอคือ พิราบ ปากเหยี่ยว ที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าสายเหยี่ยวตัวจริงเสียอีก เพราะฉากหน้าอหิงสา สันติ แต่ทุกวันนี้เธอก็ยังจิกกินซากศพไพร่แดงเพื่อหล่อเลี้ยงขบวนการนอกรีตของตัว เองเอาไว้

ใน ขณะที่เธอเรียกหาเสรีภาพให้สามีตัวเองที่ยังนอนในคุก กลับไม่เคยปรากฏถึงความพยายามในการช่วยเหลือไพร่พลแดงที่ยังซุกตัวเงียบ ๆ ไร้คนเหลียวแลอยู่ในตารางอีกกว่าร้อยชีวิต สะท้อนถึงความที่ไม่ควรค่าแก่การยกระดับเป็นผู้นำ

แต่เมื่อเธอคือคนที่ถูกเลือกก็น่าสนใจติดตามดูวิธีคิดว่า “ธิดาแดง”ภรรยาเหวง เหวง จะใช้ยุทธศาสตร์ใดมาขับเคลื่อน นปช. ในยุคที่ คางคกตู่ จะเปลี่ยนบทบาทตัวเองลงเป็นแค่ “เงาอสูร”เท่านั้น

ก่อนที่เสื้อแดงจะเผาเมืองรอบสองในช่วงเมษา-พฤษ ภาที่ผ่านมา “ธิดาแดง” ในฐานะครูใหญ่ของโรงเรียน นปช. เคยแจกจ่ายเอกสารให้กับมวลหมู่สมาชิกในชื่อ “ยุทธศาสตร์สองขาของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน” มีเนื้อหาแสดงให้เห็นความยึดโยงระหว่างมวลชนเสื้อแดงกับพรรคการเมืองซึ่งก็ หมายถึงพรรคเพื่อไทย ยืนหยัดเป็นสองขาร่วมกันเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ

แค่ ชื่อของเอกสารที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ใหญ่ในการเคลื่อนไหว “แดงทั้งแผ่นดิน” ก็บ่งบอกชัดแจ้งแล้วว่า “ธิดาแดง” คือ มันสมองของคนเสื้อแดงมาโดยตลอด การเปลี่ยนผ่านผลัดผ้าใหม่เลิกใช้บุคลากรจากฝ่ายการเมืองมาทำงานภาคประชาชน

ด้าน หนึ่งเป็นความพยายามก้าวข้ามทักษิณของฝ่ายซ้าย ที่เปิดเผยตัวเองออกมาหน้าฉากในภาวะที่คิดว่าสถานการณ์เริ่มสุกงอมมากพอโดย ไม่ต้องอาศัยทักษิณมาเป็นตัวชูโรงเพื่อเรียกคนอีกต่อไป

เป็นการแสดงออกว่าคนเสื้อแดงที่มีทักษิณเป็นปานดำติดตัวมาตั้งแต่เกิดตามสำนวนของ จรัล ดิษฐาอภิชัย กำลัง ลอกคราบขูดปานดำออกจากตัว พยายามแสดงบทบาทว่าต่อไปจะไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อทักษิณเพียงคนเดียว แต่ขบวนการนี้จะร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ

ด้วยการปฏิวัติจากประชาชนโดยกำหนดเวลา 5 ปี ถึงเป้าหมาย ใช้ช่วงเวลาจากนี้ไปนวดสถานการณ์สร้างชุดความคิดใหม่ที่เป็นอันตรายต่อ สถาบันหลักของชาติ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอนาคต

ใน อดีต “ธิดาแดง” และสหายอีกจำนวนมากต่อสู้ตามอุดมการณ์บนวาทกรรม “ศักดินาล้าหลัง” มาวันนี้ “สหายปูน” และเพื่อนร่วมแก๊งยกระดับจาก “ศักดินาล้าหลัง” มาเป็น “โค่นล้มอำมาตยาธิปไตย” ซึ่งชัดเจนว่า ความหมายของอำมาตย์นั้นไปไกลเกินกว่าที่จะหยุดยั้งอยู่แค่ “สถาบันองคมนตรี”

สิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สกัดให้ทันท่วงที คือ การเผยแพร่ข้อมูลให้ร้ายสถาบันหลักของชาติ ซึ่งจะมีการนำเสนอผ่าน

“เวปซ้าย” หลากหลายชื่อเปลี่ยนสมญานามไปเรื่อย ๆ เพื่อหนีเงื้อมมือของกฎหมาย

เอกสาร ที่มีการเผยแพร่จะมีทั้งที่เขียนในเชิงนิทาน เรื่องเล่า บทความเสียดสี ซึ่งไม่ว่าจะมาในรูปลักษณ์ใดล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ให้ข้อมูลเท็จจาบจ้วงสถาบันหลักของชาติเพื่อสั่นคลอนศรัทธาจากประชาชน

เรา เห็นบทเรียนจากพลานุภาพของโลกในยุคข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มาแล้ว ทั้งจากกรณีคลิปตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไปจนถึง การแฉข้อมูลลับของ วิกิลีคส์ ซึ่งแม้แต่ สหรัฐอเมริกาก็ยังปวดเศียรเวียนเกล้าจำนนต่อเครื่องมือไฮเทคที่ตัวเองสร้าง ขึ้น โดยไม่ทันคิดว่าคอมพิวเตอร์ที่ทำเงินมหาศาลให้กับสหรัฐจะกลับกลายมาเป็น อาวุธร้ายทำลายตัวเอง

ถึง เวลาแล้วที่กระทรวงไอซีทีต้องทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายความมั่นคง และควรมีชุดเฉพาะกิจแฮคเร็ว คอยติดตามความเคลื่อนไหวบนโลกไซเบอร์ของพวกเวปซ้าย เพื่อปิดช่องทางการทะลุทะลวงส่งผ่านข้อมูลพิษล้างสมองประชาชน

ส่วน กทช. ซึ่งดูแลวิทยุชุมชนก็ต้องประสานงานต่อเนื่องกับฝ่ายความมั่นคงเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้วิทยุชุมชนไปให้ข้อมูลเท็จ ใส่ร้ายสถาบันหลักของชาติ ปลุกปั่นให้คนไทยหลงผิดคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองตามที่มีใครบางคนวางแผน ไปสู่ รัฐไทยใหม่

ขณะ เดียวกันก็ต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของคน กลุ่มนี้ว่า นอกจากจะท้าทาย วอนนอนคุกแล้ว คนเหล่านี้ยังมีพฤติกรรมเข้าข่าย ควรนอนคุก จากความคิดที่เป็นกบฏต่อแผ่นดินอย่างไร

ซี ดีอุบาทว์ที่ไล่แจกกันทุกครั้งระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง มีเนื้อหาอย่างไรไม่ขอสาธยายถึง บอกได้แต่เพียงว่าเป็นความพยายามที่เล็งไปถึงอนาคตซึ่งผูกโยงกับสถานการณ์ สำคัญของบ้านเมือง ที่คนเหล่านี้คิดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านและเป็นโอกาสให้หน่อเนื้อเชื้อโรค ร้ายแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วกัดกินประเทศไทยไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่อำนาจ เปลี่ยนมือ

จริง อยู่ว่า ทุกสังคมต้องมีการพัฒนาและทุกองค์กรก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับ สถานการณ์ แต่รากฐานของประเทศที่ต้องรักษาไว้ คือ

ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะต้องดำรงอยู่คู่บ้านเมืองต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น